Skip to content
Achieve a flow state
นัลลูรี่1 min read

เราทุกคนสามารถเข้าสู่สภาวะ Flow State ได้ด้วยวิธีนี้

คุณอาจเคยสัมผัสกับ Flow State ตอนที่คุณกำลังจดจ่อและมีสมาธิอยู่กับสิ่งที่ทำจนรู้สึกว่าเวลาเดินช้าลง

เมื่อคุณอยู่ใน Flow State คุณจะมุ่งมั่นกับงานที่ทำ การรับรู้และการกระทำดูเหมือนจะประสานกันได้อย่างลงตัวโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ บางคนเรียกมันว่า 'การอยู่ในโซน' แต่ในนักจิตวิทยามักจะเรียกมันว่า Flow State

ใครๆ ก็สามารถเข้าสู่สภาวะ Flow State ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การออกกำลังกาย หรือแค่ทำกิจวัติประจำวันธรรมดาๆ

คุณอาจสงสัยว่า “Flow State คืออะไร?” หรือ “จะเข้าสู่สภาวะ Flow State ได้อย่างไร?” เราได้รวบรวมข้อมูลที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Flow State ในบทความนี้ อ่านต่อเลย!

 

Flow State คืออะไร?

Flow State เป็นแนวคิดที่นักจิตวิทยา Mihaly Csikszentmihalyi และ Jeanne Nakamura พูดถึง มันเป็นสภาวะจิตใจภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่คุณมุ่งมั่นและจดจ่อกับงานอย่างเต็มที่ ตอนที่คุณให้ความสนใจกับกิจกรรมหรืองานอย่างลึกซึ้ง เมื่อคุณในอยู่ในโซนที่ไม่มีสิ่งรบกวนนี้ เสียงพูดคุยในใจของตัวคุณเองก็จะเริ่มเงียบหายไป

 

สัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าคุณกำลังอยู่ใน Flow State ได้แก่:

  • Deep focus: คนที่อยู่ในระยะนี้จะไม่ถูกรบกวนได้ง่าย หากมีอะไรมาขัดจังหวะก็อาจทำให้รู้สึกรำคาญ
  • ขาดความรู้สึกตัว: บางคนอาจเจอกับการคิดแบบอ้างถึงตัวเองที่ลดลง ซึ่งเป็นการลดโอกาสที่จะคิดถึงตัวเอง ความสามารถในการทำงาน หรือสายตาที่คนอื่นมองตนเอง
  • ความสนุกสนาน: งานที่ทำจะมีความสนุกสนานและทำให้คุณอยากเข้าสู่สภาวะ Flow State บ่อยๆ
  • ความอดทน: งานวิจัยพบว่าการอยู่ในสภาวะ Flow State ช่วยให้คุณทำงานต่อไปได้แม้ว่างานนั้นจะท้าทายแค่ไหน

 

"อีโก้จะหายไป เวลาเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว ทุกการกระทำ การเคลื่อนไหว และความคิดเกิดขึ้นตามลำดับ เหมือนการเล่นดนตรีแจ๊ส ทั้งตัวคุณมีส่วนร่วมและคุณกำลังใช้ทักษะของคุณอย่างเต็มที่" — Csíkszentmihályi

 

ทำไมเวลาจึงผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อคุณอยู่ในสภาวะ Flow State

สภาวะ Flow State ทำให้เวลาดูเหมือนผ่านไปอย่างแตกต่างจากปกติ เมื่อคุณจดจ่อกับงานอย่างลึกซึ้ง คุณอาจเริ่มทำงานในตอนเช้าและพอรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่ามันเลยเวลากินข้าวกลางวันแล้ว สภาวะที่จดจ่ออย่างเต็มที่นี้ทำให้เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงอย่างรวดเร็วโดยที่คุณไม่ได้สังเกต

งานวิจัยระบุว่าสภาวะ Flow State เปลี่ยนแปลงการรับรู้เวลาของคุณ เมื่อคุณจดจ่อกับงานอย่างเต็มที่ สมองส่วน prefrontal cortex ที่รับผิดชอบการรับรู้เวลาจะมีการทำงานน้อยลง ทำให้คุณจมอยู่ในปัจจุบันและรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

 

การอยู่ใน Flow State เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพได้อย่างไร

การอยู่ในสภาวะ Flow State ไม่เพียงแค่ทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่มันยังช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพอย่างมาก คุณจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึงหกเท่าและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นถึงสามเท่า การจดจ่ออย่างลึกซึ้งในสภาวะ Flow State ทำให้สมองสร้างการเชื่อมโยงที่ไม่ปกติ นำไปสู่ความคิดและวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ เมื่อคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสิ่งรบกวนน้อยลง คุณก็จะมีจังหวะในการทำงานที่ดีที่สุด ผลลัพธ์คืองานมีคุณภาพและผลิตผลที่สูงขึ้น

 

สภาวะ Flow State เหมือนกับ hyperfocus หรือไม่?

การอยู่ในสภาวะ hyperfocus อาจฟังดูคล้ายกับการอยู่ในสภาวะ Flow State ในบริบทของภาวะสมาธิสั้น (ADHD) hyperfocus หมายถึงความสนใจที่รุนแรงหรือการยึดติดอยู่กับสิ่งที่คนๆ นั้นรู้สึกสนใจ ถึงแม้หลายคนอาจใช้คำทั้งสองนี้แทนกัน แต่จริงๆ แล้วทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างที่สำคัญอยู่หลายข้อ

อย่างแรก Flow State โดยทั่วไปเป็นสภาวะที่เป็นประโยชน์ แต่ hyperfocus อาจเป็นอุปสรรคได้ เนื่องจากคนอาจจมอยู่กับงานจนไม่สามารถมีสมาธิหรือสนใจสิ่งอื่นได้

อีกความแตกต่างหนึ่งคือ hyperfocus มักหมายถึงคนที่สนุกกับงานนั้นเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยพบว่าคนสามารถเข้าสู่สภาวะ Flow State ได้ในงานทุกงาน ตราบใดที่งานนั้นท้าทายหรือมีความหมายพอ

 

วิธีเข้าสู่สภาวะ Flow State

การเข้าสู่สภาวะ flow state ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่เข้มงวด แต่มีหลายเทคนิคที่คุณสามารถฝึกเพื่อช่วยให้เข้าสู่สภาวะนี้ได้ ลองพิจารณา:

  • ไตร่ตรองถึงช่วงเวลาที่เคยอยู่ใน flow state: สังเกตปัจจัยที่ช่วยให้คุณเข้าสู่ Flow State เช่น ประเภทของงานหรือกิจกรรม สภาพแวดล้อม และสภาพจิตใจในขณะนั้น เมื่อคุณมีแนวคิดคร่าวๆ คุณสามารถนำปัจจัยเหล่านี้มาใช้กับงานอื่นๆได้
  • หาช่วงเวลาที่คุณมีประสิทธิภาพสูงสุด: คิดถึงช่วงเวลาของวันที่คุณรู้สึกตื่นตัวและมีพลังงานมากที่สุด จัดตารางงานที่ท้าทายที่สุดในช่วงเวลานี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ flow state
  • จัดสรรเวลาให้เพียงพอ: การเข้าสู่ flow state ต้องใช้เวลา ดังนั้นอาจดีกว่าถ้าคุณเลือกเข้าสู่ flow state ในงานที่ใช้เวลานาน และมั่นใจได้ว่าคุณจัดสรรเวลาเพียงพอสำหรับมัน
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่ปราศจากสิ่งรบกวน: ลดสิ่งรบกวนที่เป็นไปได้ โดยหาสถานที่เงียบ ปิดการแจ้งเตือน และกำหนดขอบเขตกับคนรอบข้างเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะมีสมาธิโดยไม่ถูกรบกวน
  • ปรับงานของคุณ: งานที่ง่ายเกินไปอาจทำให้เบื่อหน่าย ในขณะที่งานที่ยากเกินไปอาจทำให้หงุดหงิด เพื่อหาความท้าทายที่เหมาะสม ลองทำงานที่คุณรู้สึกว่ามีความหมายหรือท้าทาย หรือแบ่งงานที่ยากเกินไปออกเป็นส่วนย่อย

 

เคล็ดลับในการรักษาสภาวะ Flow State

การเข้าสู่สภาวะ flow state เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การรักษามันต้องการการฝึกฝนและความอดทน ให้กำลังใจตัวเองและยอมรับว่าทุกครั้งก็คงไม่ได้สมบูรณ์แบบ ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้ในการรักษาสภาวะ flow state ของคุณ:

  • พักเบรกสั้นๆ: แม้ในสภาวะ flow state การพักเบรกสั้นๆ สามารถช่วยรักษาความชัดเจนทางจิตใจและป้องกันการหมดไฟ ยืดเส้นยืดสาย เดินเล่น หรือฝึกการหายใจลึกๆ สามารถทำให้จิตใจและร่างกายของคุณรู้สึกสดชื่น
  • ฝึกการมีสติ: การมีสติอยู่กับปัจจุบันสามารถช่วยให้คุณรักษาสภาวะ flow state ได้ เทคนิคเช่นการทำสมาธิและการโฟกัสลมหายใจสามารถฝึกให้คุณจดจ่อและอยู่กับปัจจุบัน
  • ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี: ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีในแต่ละวันจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการเข้าสู่ flow state และรักษาสภาวะนั้นเอาไว้ การกินอาหารที่สมดุลทางโภชนาการ นอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังกายมีส่วนช่วยให้จิตใจแจ่มใสและมีสมาธิ

 

สรุป

การค้นพบสภาวะ flow state เป็นการเดินทางของการค้นพบตัวเองและเติบโต การเข้าสู่สภาวะ flow state จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และความสุขโดยรวมของคุณ การไตร่ตรองถึงประสบการณ์ที่เคยเข้าสู่ flow state ลดสิ่งรบกวน และหาความท้าทายที่เหมาะสมกับคุณ จะช่วยให้คุณเข้าสู่สภาวะ flow state นี้ได้เมื่อคุณต้องการ

ยอมรับกระบวนการ สนุกกับการเดินทาง แล้วอีกไม่นานคุณจะพบว่าตัวเองเข้าสู่สภาวะ flow state ที่ทุกอย่างลงตัวได้อยู่เป็นประจำ

กำลังมองหาเคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพอยู่หรือเปล่า? ชมวิดีโอ webinar ของเราเกี่ยวกับการวัดประสิทธิภาพและการปรับปรุงการทำงานที่นำเสนอโดย Dr. Tiffanie Ong ซึ่งเป็น Chief Product Officer ของ Naluri

You may also like