คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมกลิ่นเย้ายวนของขนมปังอบสดใหม่ที่อยู่ใกล้ทางเข้าของร้านทำให้คุณต้องหยิบขนมปังเพิ่มอีกหนึ่งแถวลงในรถเข็นของคุณ หรือว่าทำไมขนมลูกกวาดมักจะเล็ดลอดมาอยู่ในรถเข็นของคุณในขณะที่กำลังรอชำระเงินได้

มันไม่ใช่ความบังเอิญ มันคือศิลปะการสะกิดพฤติกรรม แผนผังของร้านมีกลยุทธ์ในการวางสินค้าที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อของคุณ ในลักษณะคล้ายกัน ลองนึกกึงครั้งสุดท้ายที่คุณเลื่อนดูโซเชียลมีเดีย ข้อความแจ้งเตือนที่ขึ้นมาในเวลาเหมาะเจาะเพื่อเตือนให้คุณมีส่วนร่วมกับแอปไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันคือสิ่งสะกิด เป็นตัวกระตุ้นเบา ๆ ให้คุณใช้เวลากับแพลตฟอร์มนั้นนานขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกอาหารที่ดีมากขึ้นต่อสุขภาพ และแรงจูงใจให้อนุรักษ์พลังงานจนไปถึงการออกแบบของเมือง ตัวสะกิดพฤติกรรมมีอยู่ทุกแห่งหน มันค่อย ๆ หล่อหลอมการตัดสินใจและมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของสังคม

แต่ด้านงดงามของมันคือพลังของตัวสะกิดไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในร้านค้าหรือหน้าจอ แต่มันเป็นเครื่องมือที่คุณสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเชิงบวกได้ ลองจินตนาการถึงสิ่งแวดล้อมที่สะกิดให้คุณเกิดนิสัยการกินที่ดี อาทิ การวางจานผลไม้ไว้บนเคาน์เตอร์ครัวของคุณแทนที่จะเป็นขวดโหลคุ้กกี้ หรือการวางขวดน้ำดื่มให้ใกล้มือเพื่อกระตุ้นให้ไม่ขาดน้ำตลอดทั้งวัน การปรับใช้ง่าย ๆ นี้สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในการสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นโดยภาพรวมสำหรับคุณ

การออกแบบสภาพแวดล้อมและกิจวัตรประจำวันอย่างมีกลยุทธ์จะกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมบวก คุณสามารถสะกิดตัวเองไปสู่การพัฒนาตัวเองและเติมเต็ม มันคือการรู้จักอิทธิพลที่แฝงอยู่และใช้มันเพื่อสร้างชีวิตตามระดับสุขภาพที่คุณต้องการ

เพื่อช่วยให้คุณทำได้ตามเป้าหมายสุขภาพ เราจะอธิบายว่าทฤษฎีสะกิดพฤติกรรมคืออะไร มันทำงานอย่างไร และมันจะช่วยให้คุณเปลี่ยนพฤติกรรมและมีสุขภาวะโดยรวมที่ดีขึ้นได้อย่างไร

ทฤษฎีสะกิดพฤติกรรมคืออะไร

ทฤษฎีสะกิดพฤติกรรมคือการที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้นโดยการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อหนุนต่อการตัดสินใจเชิงบวก

พูดง่าย ๆ คือ ตัวสะกิดพฤติกรรมเป็นเพียงตัวส่งสัญญาณแบบแอบแฝง และไม่ซับซ้อนที่จะกระตุ้นให้คุณเลือกสิ่งที่ตรงกับผลลัพธ์ที่คุณต้องการโดยไม่ได้รู้สึกว่าถูกบังคับหรือมีข้อจำกัด มันไม่ใช่รูปแบบการลงโทษหรือจำกัดอิสรภาพของคุณ แต่เป็นการทำให้กระบวนการตัดสินใจเป็นสิ่งที่จัดการได้มากขึ้นและทำได้ง่ายขึ้น

ทฤษฎีสะกิดพฤติกรรมทำงานอย่างไร

ทฤษฎีสะกิดพฤติกรรมทำงานด้วยการส่งตัวบอกให้ทำหรือคำแนะนำแอบแฝงที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของคุณในเชิงบวก เป็นแนวคิดที่ว่าคนเรามีแนวโน้มที่จะเลือกสิ่งหนึ่งมากขึ้นถ้าสิ่งนั้นเข้าถึงง่ายขึ้นหรือน่าสนใจ

เราสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์นี้ได้จากการปรับสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการตัดสินใจ ใช้ค่ามาตรฐานที่เป็นอยู่ หรือการเปลี่ยนลักษณะการนำเสนอเพื่อเน้นตัวเลือกที่คุณต้องการเลือก ให้นึกถึงว่ามันคือ “สิ่งสะกิดพฤติกรรม” เบา ๆ ให้ไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง

ตัวอย่างของทฤษฎีสะกิดพฤติกรรม

ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าทฤษฎีสะกิดพฤติกรรมคืออะไรและมันทำงานอย่างไร ตัวอย่างที่แสดงถึงทฤษฎีสะกิดพฤติกรรมมีดังนี้:

• เขียนข้อความเตือนและสิ่งกระตุ้นให้กับตัวเอง

ถ้าคุณต้องการมีนิสัยใหม่ อาทิ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสรอ การจัดทำสิ่งแจ้งเตือนและตัวบอกให้ทำไว้ที่บ้านหรือออฟฟิศของคุณสามารถช่วยได้ ตัวอย่าง ให้วางชุดออกกำลังกายในจุดที่คุณมองเห็นหรือตั้งการแจ้งเตือนในโทรศัพท์เพื่อเตือนให้เดินระหว่างพักกลางวัน

• มีมุมมองแบบใหม่

การตีกรอบการตัดสินใจหรือภารกิจส่งผลอย่างสูงต่อวิธีการทำให้ได้มา ตัวอย่าง แทนที่จะคิดว่าการออกกำลังกายเป็นภาระ ให้มองใหม่ว่ามันเป็นวิธีที่จะเพิ่มพลังงานและอารมณ์ของคุณ สิ่งนี้จะทำให้การออกกำลังกายดูน่าสนใจและมีแรงจูงใจมากขึ้น โดยเฉพาะในวันที่แรงจูงใจของคุณอยู่ในระดับต่ำ!

•  ทำให้เข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ได้ยาก

มันอาจฟังดูสวนทางกับสัญชาตญาณ แต่การทำให้สิ่งนั้นเข้าถึงยากจะเป็นการทำให้มันมีคุณค่ามากขึ้น ตัวอย่าง ถ้าคุณซ่อนของหวานไว้ในที่เข้าถึงยาก คุณอาจจะมีโอกาสน้อยลงที่จะไปเอามันมา และมีโอกาสมากขึ้นที่จะเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าซึ่งเข้าถึงได้ง่ายกว่า

• ให้รางวัลตัวเอง

การให้รางวัลตัวเองเมื่อมีความก้าวหน้าในระหว่างทางเป็นสิ่งสำคัญ! รางวัลจะช่วยรักษาแรงจูงใจของคุณให้อยู่ในระดับสูงและทำให้กระบวนการเป็นเรื่องสนุกได้ ตัวอย่าง ถ้าคุณทำตามตารางการออกกำลังกายใหม่ได้เป็นเวลา 1 เดือน ให้มอบรางวัลแก่ตัวเองด้วยการนวดหรือซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายใหม่ สิ่งนี้จะส่งเสริมพฤติกรรมบวกและทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะยึดถือตามเป้าหมายของคุณในระยะยาว

• มีระบบซัพพอร์ตที่แข็งแรง

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการรักษาแรงจูงใจและทำเป้าหมายให้สำเร็จคือการมีระบบซัพพอร์ตที่ทำให้คุณมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง อาจจะเป็นเพื่อน สมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งโค้ชด้านอาชีพหรือพี่เลี้ยงผู้ที่จะช่วยให้คุณเดินตามเส้นทางและให้กำลังใจคุณเมื่อยามที่คุณต้องการมัน

จะใช้ทฤษฎีสะกิดพฤติกรรมอย่างไร

การสะกิดพฤติกรรมตัวเองไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมาก เรามาดูกันเลยว่าจะปรับใช้ทฤษฎีสะกิดพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างไร:

• ระบุเป้าหมายสุขภาพของคุณ

การปรับปรุงพฤติกรรมตัวคุณเองผ่านการสะกิดพฤติกรรมทำได้โดยเริ่มที่การระบุเป้าหมายเฉพาะสำหรับสุขภาพที่คุณต้องการทำให้สำเร็จ ต้องมีความชัดเจนและเฉพาะเจาะจงในผลลัพธ์ที่คุณหวังว่าจะทำให้ได้ คุณสามารถใช้กรอบการตั้งเป้าหมายแบบ SMART เพื่อให้แน่ใจว่าเป้าหมายของคุณมีความเฉพาะเจาะจง (Specific) วัดผลได้ (Measurable) ทำได้จริง (Achievable) เกี่ยวข้อง (Relevant) และมีกรอบเวลา (Time-bound)

•  วิเคราะห์และตรวจสอบสภาวะปัจจุบันของคุณ

หลังจากที่คุณได้กำหนดเป้าหมายแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการวิเคราะห์และตรวจสอบนิสัยและสภาพแวดล้อมปัจจุบันของคุณ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแบบแผนที่เป็นอยู่และระบุอุปสรรคที่อาจเป็นตัวขัดขวางการมีพฤติกรรมที่ต้องการ การตรวจสอบพฤติกรรมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเข้าใจนิสัยปัจจุบัน ระบุอุปสรรคที่มีต่อการบรรลุเป้าหมายของคุณ และช่วยให้คุณเตรียมสิ่งสะกิดพฤติกรรมตามความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับคุณ

• พัฒนาตัวสะกิดพฤติกรรมตัวเอง

เลือกตัวสะกิดพฤติกรรมตัวเองที่สอดคล้องกับเป้าหมายและลักษณะสภาพแวดล้อมของคุณ สิ่งสะกิดเหล่านี้อาจเป็นการแจ้งเตือน การสร้างตัวส่งสัญญาณเป็นรูปภาพ หรือการพูดบวกกับตัวเอง สิ่งสะกิดพฤติกรรมแต่ละแบบใช้ได้ดีแตกต่างกันไปในแต่ละคน ดังนั้นลองดูว่าอะไรคือตัวที่จะส่งผลดีที่สุดสำหรับคุณ!

• เริ่มสะกิดพฤติกรรมตัวเอง

ตอนนี้ถึงเวลาเริ่มสะกิดตัวเองแล้ว! ลองใช้สิ่งสะกิดพฤติกรรมเหล่านี้เป็นเวลาสั้น ๆ เพื่อดูว่ามันมีส่วนช่วยปรับพฤติกรรมที่ต้องการได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ผล ไม่ต้องกังวล คุณสามารถพลิกแพลงสิ่งสะกิดพฤติกรรมได้เสมอจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ!

• ทำการทบทวนและปรับเปลี่ยนเสมอถ้าจำเป็น

อย่าลืมทบทวนสิ่งสะกิดพฤติกรรมและดูว่าคุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรไหม โดยเฉพาะถ้าสิ่งสะกิดพฤติกรรมของคุณไม่ได้ทำให้คุณบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการ อาศัยความอดทนเล็กน้อย บวกกับความเพียรพยายาม และการมีสิ่งสะกิดพฤติกรรมที่ใช่ คุณก็จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมและไปถึงเป้าหมายของคุณได้เป็นผลสำเร็จ

สรุป  การสะกิดพฤติกรรมตัวเองคือเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่สามารถช่วยให้คุณปรับปรุงพฤติกรรมตัวเองและบรรลุเป้าหมายสุขภาพส่วนตัวของคุณได้ การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของคุณแบบเล็กน้อยและเบา ๆ จะส่งเสริมให้มีการตัดสินใจเชิงบวกและทำให้คุณไปถึงผลลัพธ์ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เมื่อคุณต้องการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตส่วนตัวของคุณครั้งหน้า โปรดนึกถึงพลังของการสะกิดพฤติกรรมตัวเองและวิธีการที่มันช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ!

ถ้าคุณต้องการแนวทางที่ตรงกับคุณในการบรรลุเป้าหมายสุขภาพ โค้ชสุขภาพของนัลลูรี่พร้อมให้ซัพพอร์ตที่คุณต้องการนัดหมายขอรับคำปรึกษา หรือแชทกับโค้ชสุขภาพของนัลลูรี่วันนี้!