บทความ - สุขภาพจิต, ความยืดหยุ่น - นัลลูรี่

บทเรียนชีวิตจริงจากโค้ชสุขภาพจิตของ Naluri เกี่ยวกับการสร้างความเข้มแข็งทางใจ - Naluri

เขียนโดย นัลลูรี่ - 22 ม.ค. 2025, 3:42:14

สวัสดีค่ะ! ฉันชื่อ เชอร์วอนน์ วอง (Chervonne Wong) โค้ชสุขภาพจิตจาก Naluri.

ชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายก็หลีกเลี่ยงไม่ได้—แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือวิธีที่เราตอบสนองต่อสถานการณ์เหล่านั้น ในฐานะโค้ชสุขภาพจิตของ Naluri ฉันมีโอกาสเดินเคียงข้างผู้คนที่เผชิญกับความท้าทายมากมายซึ่งทดสอบขีดจำกัดของพวกเขา ตั้งแต่ความเครียดในที่ทำงาน ไปจนถึงการสูญเสียส่วนตัวและเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ละเรื่องราวได้สอนฉันถึงสิ่งสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งทางใจ—ไม่ใช่แค่คำฮิตติดเทรนด์ แต่เป็นเครื่องมือที่นำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้เราก้าวข้ามอุปสรรคและเจริญเติบโตได้แม้ต้องเผชิญความยากลำบาก.

ในบทความนี้ ฉันจะเล่าถึงเรื่องราวจากประสบการณ์ของสมาชิกท่านหนึ่ง พร้อมทั้งเสนอคำถามเพื่อการไตร่ตรอง ซึ่งจะช่วยให้คุณฝึกฝนและพัฒนาความเข้มแข็งทางใจในเส้นทางของคุณเองค่ะ.

 

ความอยากรู้อยากเห็น: เปลี่ยนความวิตกกังวลให้กลายเป็นการค้นพบตัวเอง

ความอยากรู้อยากเห็นไม่ใช่แค่การแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเปิดใจรับความเป็นไปได้รอบตัว และปรับมุมมองต่ออุปสรรคให้กลายเป็นโอกาสสำหรับการเติบโต ทัศนคติแบบนี้กระตุ้นให้เราตั้งคำถามว่า “ทำไม?” หรือ “จะเป็นอย่างไรถ้า…?” แทนที่จะปล่อยให้ความกลัวหรือความหงุดหงิดเข้าครอบงำ.

ในที่ทำงาน ความอยากรู้อยากเห็นช่วยส่งเสริมให้เกิดทัศนคติแบบเติบโตทำให้พนักงานมองเห็นความท้าทายเป็นบันไดสู่การพัฒนาตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการมองหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หรือเรียนรู้จากความผิดพลาด ความอยากรู้อยากเห็นคือแรงผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าและความเข้มแข็งทางใจ.

เมื่อสมาชิกของฉันต้องเผชิญกับโปรเจกต์ใหม่ เขารู้สึกถูกครอบงำด้วยความกังวล แม้ว่าจะมีประสบการณ์และทักษะที่จำเป็นอยู่แล้ว เขายังคงกลัวความล้มเหลวและการถูกตัดสินจากคนรอบข้าง ทว่าแทนที่จะยอมแพ้ให้กับความคิดลบ เขาเลือกที่จะมองสถานการณ์ของตัวเองด้วยความอยากรู้อยากเห็น.

ด้วยการตั้งคำถามกับตัวเอง เช่น “ฉันกลัวอะไรกันแน่?” และ “ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้?” เขาค่อย ๆ ค้นพบความกลัวที่แท้จริงในใจ ได้แก่ ความต้องการการยอมรับ และความกังวลว่าจะไม่ดีพอ เมื่อเข้าใจเช่นนี้ เขาจึงยอมรับอารมณ์ของตนเอง แทนที่จะมองข้าม ทำให้สามารถปรับมุมมองจากความกลัวสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ให้กลายเป็นความท้าทายที่เข้าใจและเผชิญหน้าได้  การย้อนมองความสำเร็จที่ผ่านมาได้ช่วยย้ำเตือนถึงศักยภาพของเขาในการเอาชนะอุปสรรค และเสริมสร้างความมั่นใจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

คำถามเพื่อการไตร่ตรอง:

  • ลองนึกถึงความท้าทายล่าสุดในที่ทำงาน คุณคิดว่าความอยากรู้อยากเห็นจะช่วยให้คุณรับมือกับมันแตกต่างจากเดิมได้อย่างไร?
  • มีวิธีใดบ้างที่คุณสามารถปลูกฝังความอยากรู้อยากเห็นได้ แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่มีแรงกดดันสูง?

 

การเชื่อมโยง: ดึงพลังจากความสัมพันธ์

แม้ว่าความเข้มแข็งทางใจมักถูกมองว่าเป็นลักษณะเฉพาะบุคคล แต่ความเป็นจริงแล้ว คุณภาพของความสัมพันธ์กับผู้อื่นมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งนี้ การรู้สึกว่าตนเองได้รับการสนับสนุนและการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และคนรอบข้าง เปรียบเสมือนตาข่ายความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันไม่ให้เราตกลงไปสู่ภาวะยากลำบากได้ง่าย

ความเชื่อมโยงในที่ทำงานส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดกว้าง ความเคารพซึ่งกันและกัน และการมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งทั้งหมดล้วนมีส่วนช่วยให้สุขภาพจิตแข็งแรงและสร้างความเข้มแข็งทางใจได้อย่างยั่งยืน ผู้นำมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมวัฒนธรรมของการเชื่อมโยงนี้ ผ่านความเข้าอกเข้าใจ ความเปิดกว้างต่อความหลากหลาย และการร่วมมือกัน

เมื่อสมาชิกของฉันตระหนักถึงคุณค่าของการสนับสนุน เขาได้หันไปขอคำปรึกษาจากเพื่อนและที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้ในสายงานเดียวกัน ความสัมพันธ์เหล่านี้กลายเป็นแหล่งกำลังใจและมุมมองใหม่ ๆ เพื่อน ๆ เตือนให้เขาตระหนักถึงจุดแข็งและผลงานที่เคยประสบความสำเร็จในอดีต ซึ่งเขามองข้ามไปเพราะความวิตกกังวล

ความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งและได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน ช่วยให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลงในช่วงที่ต้องเผชิญกับปัญหา กำลังใจจากพวกเขายังเป็นเครื่องเตือนใจว่า เขาไม่ได้เผชิญความท้าทายใหม่นี้เพียงลำพัง และเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกไม่แน่ใจในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ


คำถามเพื่อการไตร่ตรอง:

  • ความสัมพันธ์ของคุณส่งผลต่อความสามารถในการรับมือกับความเครียดอย่างไร?
  • ในสภาพแวดล้อมการทำงานทางไกลหรือแบบผสมผสาน คุณสามารถใช้กลยุทธ์ใดในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในทีม?

 

ความกล้าหาญ: เผชิญความกลัวด้วยความเชื่อมั่น

ความกล้าหาญคือหัวใจสำคัญของความเข้มแข็งทางใจ เพราะมันผลักดันให้เราก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย เผชิญหน้ากับความไม่แน่นอน และยอมรับการเปลี่ยนแปลง ความกล้าหาญไม่ใช่การไร้ซึ่งความกลัว แต่คือการเลือกลงมือทำทั้งที่ยังรู้สึกกลัวอยู่

ในที่ทำงาน ความกล้าหาญปรากฏให้เห็นผ่านการยอมเสี่ยง การกล้าพูด และการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ องค์กรสามารถส่งเสริมความกล้าหาญได้ด้วยการทำให้การล้มเหลวเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในการเรียนรู้ และสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการคิดสร้างสรรค์และยอมเสี่ยงอย่างมีเหตุผล

เมื่อเข้าใจความกลัวของตัวเองได้ชัดเจนขึ้นและมีเครือข่ายสนับสนุนที่แข็งแรง สมาชิกของฉันก็เลือกที่จะก้าวไปสู่ความกล้าหาญ แทนที่จะหลีกเลี่ยงอารมณ์หรือหนีจากความท้าทาย เขาเลือกเผชิญหน้าอย่างเต็มที่ พร้อมยอมรับว่าการเรียนรู้และการทำผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเริ่มต้นบทบาทใหม่

ความกล้าที่จะรับมือกับความท้าทายทั้งภายนอกและความกลัวภายในนี้ ได้ช่วยให้เขาสร้างความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง เขาเตือนตัวเองว่าตนเองเคยเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ในอดีตมาแล้ว และไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะทำมันซ้ำไม่ได้

 

คำถามเพื่อการไตร่ตรอง:

  • คุณจำช่วงเวลาหนึ่งในอาชีพการงานที่คุณได้แสดงความกล้าหาญได้ไหม? คุณได้เรียนรู้อะไรบ้าง?
  • ผู้นำสามารถส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมที่พนักงานรู้สึกมีพลังในการยอมเสี่ยงได้อย่างไร?

 

การสร้างความเข้มแข็งทางใจ เพื่อให้ตัวคุณแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ยิ่งเขาฝึกฝนความอยากรู้อยากเห็นและความเปิดกว้างมากเท่าไร เขาก็ยิ่งมีความเข้าใจตนเองและความมั่นใจมากขึ้น เขาได้เรียนรู้ที่จะสังเกตความกลัวและความคิดของตัวเองโดยไม่ตัดสิน พร้อมใช้เทคนิคผ่อนคลายเพื่อจัดการกับความเครียด การสนับสนุนและการเชื่อมโยงจากเพื่อนร่วมงานช่วยสร้างความอุ่นใจ ขณะที่ความกล้าหาญทำให้เขาสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความหมาย

ด้วยการผสานสามเสาหลัก ได้แก่ ความอยากรู้อยากเห็น, ความเชื่อมโยง และความกล้าหาญ เขาได้จัดการกับความเครียดและความกังวลจากโปรเจกต์ใหม่ได้สำเร็จ และเปลี่ยนมันให้เป็นโอกาสในการเติบโตทั้งในชีวิตส่วนตัวและในงาน

หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการสร้างความเข้มแข็งทางใจ จองการปรึกษาแบบตัวต่อตัว กับโค้ชสุขภาพจิตของ Naluri เพื่อรับคำแนะนำและการสนับสนุนเฉพาะตัว เพื่อให้คุณพร้อมเผชิญหน้ากับทุกความท้าทายด้วยความมั่นใจ

 

 

เชอร์วอนน์ เป็นโค้ชสุขภาพจิตแห่ง Naluri ที่เปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจและมีชีวิตชีวา มุ่งมั่นช่วยเหลือผู้คนให้ก้าวข้ามความท้าทายด้านอารมณ์และประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านจิตวิทยาการให้คำปรึกษา การสื่อสารระหว่างบุคคล และการออกแบบโปรแกรมอย่างสร้างสรรค์ เชอร์วอนน์ได้สร้างสรรค์และจัดเวิร์กช็อป การบรรยาย และเว็บบินาร์ที่ทรงพลัง ซึ่งกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมเติบโตและส่งเสริมสุขภาวะทางใจ เธอผสานความเข้าอกเข้าใจกับเทคนิคที่พิสูจน์แล้วเพื่อแนะนำลูกค้าให้ค้นพบความชัดเจน ความเข้มแข็งทางใจ และการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ยั่งยืน ด้วยแนวทางการทำงานที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความใส่ใจ เชอร์วอนน์ได้สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการค้นพบตนเอง ทำให้เธอกลายเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้บนเส้นทางสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีและเติมเต็มมากยิ่งขึ้นของทุกคนที่เธอได้ร่วมงานด้วย