เราทุกคนรู้ดีว่าทำไมการกินที่ดีต่อสุขภาพจึงมีความสำคัญ แต่เมื่อพูดถึงการไขความลับสู่อายุยืนยาว พวกเราส่วนใหญ่อาจคิดว่ามันเกี่ยวกับแบบแผนการออกกำลังกายอย่างเข้มข้น การรักษาทางการแพทย์ด้วยวิทยาการทันสมัย หรือแม้กระทั่งการค้นหาวิธีรักษาความเยาว์วัย เราลงทุนมากมายด้วยเวลา ความพยายาม และเงินสำหรับสมาชิกฟิตเนสและอาหารเสริมสุขภาพ ทั้งหมดก็เพื่อหวังว่ามันจะช่วยยืดอายุขัยของเราได้

อย่างไรก็ตาม กุญแจสู่การมีอายุยืนยาว และมีสุขภาพที่ดีมากขึ้นอาจจะตรงไปตรงมาและเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่เราจะจินตนาการเสียอีก มันไม่ได้อยู่ในแล็บไฮเทคหรือยามหัศจรรย์แต่มันอยู่ที่ไลฟ์สไตล์ง่าย ๆ แบบองค์รวมและนิสัยการกินอาหารของคนที่อยู่ในโลกที่รู้จักกันว่า “แถบบลูโซน” 

ในบทความนี้ เราจะสำรวจอาหารชาวบลูโซนว่ามันคืออะไร เน้นให้เห็นว่านิสัยการกินถูกหลักโภชนาการสามารถมีผลอย่างมากต่ออายุขัยยืนยาวและสุขภาวะที่ดีได้อย่างไร

แถบบลูโซนคืออะไร

เรามาเริ่มต้นกันเลย แถบบลูโซนหมายถึงภูมิภาคที่มีประชากรอาศัยอยู่ด้วยอายุขัยยืนยาวกว่าที่อื่นมาก โดยมักจะมีอายุถึง 100 ปีในอัตราที่สูงกว่าอายุเฉลี่ยของโลกเป็นอย่างมาก โซนที่ว่านี้ได้แก่โอกินนาว่าในญี่ปุ่น ซาร์ดิเนียในอิตาลี นิโกยาในคอสตาริกา อิคาเรียในกรีซ และโลมาลินดาในแคลิฟอร์เนีย นักวิจัยหลงใหลในดินแดนเหล่านี้มายาวนาน พยายามไขความลับที่อยู่เบื้องหลังการมีอายุยืนยาวของผู้คนที่อาศัยในดินแดนแถบนี้ แม้ว่ามีหลายปัจจัยที่มีส่วนต่ออายุขัยที่ยืนยาว หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญดูจะเป็นเรื่องอาหารการกินของพวกเขา

อาหารชาวบลูโซนคืออะไร

อาหารชาวบลูโซนเน้นไปที่วิธีดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โฟกัสไม่เพียงแค่สิ่งที่บริโภคเข้าไป แม้ว่ามันคืออาหารจากพืชผักที่เน้นผลไม้ ผัก โฮลเกรน และผักตระกูลถั่ว กินผลิตภัณฑ์จากสัตว์และอาหารแปรรูปเป็นส่วนน้อยมาก แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างจริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่ว่ากินอะไรแต่คือกินอย่างไรและเพราะอะไร

การกินถูกมองว่าเป็นประสบการณ์ที่มีร่วมกัน โอกาสแห่งการสร้างสายสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง แนววิถีนี้แปรเปลี่ยนมื้ออาหารให้เป็นการรวมตัวที่มีความหมายมากกว่าการทำอะไรเป็นกิจวัตรประจำวัน การเตรียมและการบริโภคอาหารจัดทำขึ้นด้วยสติและความขอบคุณ โดยเลือกที่จะใช้วัตถุดิบที่ปลูกเองหรือมาจากแหล่งท้องถิ่น สายสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับอาหารนี้ส่งเสริมให้เกิดประสบการณ์การกินโดยรวม มีผลต่อสุขภาวะทางกายและอารมณ์ของผู้คน

นอกจากนั้น อาหารชาวบลูโซนเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในเชิงกว้างที่สนับสนุนการมีอายุขัยยืนยาวและสุขภาวะที่ดี ไลฟ์สไตล์นี้หมายรวมถึงหลายองค์ประกอบสำคัญนอกเหนือไปจากอาหาร อาทิ:

1. กิจกรรมทางกายแบบธรรมชาติ: ต่างจากตารางการออกกำลังกายที่มีรูปแบบ กิจกรรมทางกายในแถบบลูโซนคือการทำกิจกรรมให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันผ่านการเดิน ทำสวน และทำงานบ้าน
2. มีความเชื่อมต่อทางสังคมอย่างเข้มแข็ง: ประชากรในแถบบลูโซนรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ซึ่งสนับสนุนสุขภาพทางอารมณ์และการจัดการความเครียด
3. ลดความเครียด: การฝึกฝนกิจกรรมลดความเครียดอย่างสม่ำเสมอ อาทิ การนั่งสมาธิ การงีบ และการใช้เวลากับธรรมชาติถือเป็นเรื่องปกติ
4. การอยู่อย่างมีความหมาย: การมีจุดมุ่งหมายชัดเจนซึ่งมักจะถูกพูดถึงว่าเป็น “เหตุผลที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้า” มีส่วนอย่างมากต่อสุขภาพจิตและการมีอายุยืน

วิธีที่ครอบคลุมนี้ซึ่งหมายรวมถึงอาหาร กิจกรรมทางกาย การเชื่อมต่อทางสังคม การลดความเครียด และการอยู่อย่างมีความหมาย ล้วนประกอบกันเป็นรากฐานของไลฟ์สไตล์ของแถบบลูโซน มันเป็นโมเดลแบบองค์รวมที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตให้มีสมดุลและดีต่อสุขภาพ โดยบูรณาการด้านต่าง ๆ ของสุขภาวะทั้งทางกาย จิตและสังคม

เราสามารถเรียนรู้อะไรบ้างจากอาหารชาวบลูโซน

เคล็ดลับการมีอายุยืนตามที่ชาวบลูโซนได้เปิดเผยไม่ได้มีอยู่ในซุปเปอร์ฟู้ดชนิดใดชนิดเดียวและไม่ได้อยู่กับแผนฟิตเนสที่มีการปฏิวัติวิธีกันขึ้นมา แต่เป็นการใช้วิถีชีวิตแบบองค์รวมที่เน้นความพอดีและสมดุล

แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถย้ายไปอยู่แถบบลูโซนได้ การนำองค์ประกอบของการกินและไลฟ์สไตล์ของเขามาใช้กับเราสามารถทำให้เราสุขภาพดีขึ้นและมีโอกาสมีอายุยืนยาวขึ้น มันอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงการกินเพื่อให้มีอาหารทำจากพืชผักมากขึ้น หาวิธีเคลื่อนไหวโดยธรรมชาติควบคู่กับชีวิตประจำวัน เสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นกับครอบครัวและเพื่อน และหาความหมายของชีวิตตนเอง

การใช้หลักการที่เราเห็นจากชาวบลูโซน เป็นไปได้ที่มันจะไม่เพียงทำให้เราอายุยืนขึ้นแต่ยังจะทำให้คุณภาพชิวิตในช่วงปีเหล่านั้นดีขึ้นอีกด้วย อาหารและไลฟ์สไตล์แบบชาวบลูโซนเป็นตัวเตือนดัง ๆ ว่าบางครั้งกุญแจสู่สุขภาพและอายุยืนนั้นก็เพียงเกิดขึ้นจากการตัดสินใจเลือกแบบง่าย ๆ เป็นธรรมชาติในทุก ๆ วันของเรา

สิ่งที่ต้องเข้าใจคืออาหารแบบชาวบลูโซนย้ำเตือนเราว่าสุขภาพที่ดีและอายุที่ยืนยาวที่แท้จริงมาจากการมีความสุขง่าย ๆ ของชีวิตปกติทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารกับคนที่เรารัก เดินท่ามกลางธรรมชาติ และมีเสียงหัวเราะกับเพื่อน ดังนั้น เรามาปฏิบัติตามชุมชนที่มีชีวิตชีวาและมีความสุขเหล่านี้และเริ่มใช้ชีวิตของเราด้วยไลฟ์สไตล์แบบบลูโซนกัน

เริ่มก้าวแรกสู่การใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพวันนี้ เข้าร่วมการแข่งขัน “กิน แชะ ชนะ” ที่จัดให้มีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้และชนะรางวัลประจำสัปดาห์มูลค่าสูงสุดถึง USD 1,400 ได้แก่ บัตรกำนัล Grab การรับคำปรึกษาแบบตัวต่อตัวกับนักกำหนดอาหารของนัลลูรี่ และกล่องอาหารเก็บอุณหภูมิ! ลงทะเบียนตอนนี้